วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คอมพิวเตอร์ DNA

        คอมพิวเตอร์ DNA ที่เป็นประเด็นกันอยู่ตอนนี้ หมายถึงเครื่องคำนวณที่ใช้ DNA มาเป็นกลไกหลักในการทำงาน คือ DNA ของสิ่งมีชีวิตจริงๆ เนี่ยะแหละ ไม่ใช่พวก Dynamics Network Architecture หรือ Digital Numerical Automatic (หลังๆ มานี่ตัวย่อเยอะมาก จนผมเริ่มหัดเสกคำย่อใหม่ๆ จนเป็นนิสัย) แต่เป็น Deoxyribo Necleic Acid ของเราเอง ความพยายามเอา DNA ซึ่งเป็นสารชีวภาพมาช่วยการคำนวณได้นั้นนับเป็นเรื่องที่น่ามหัศจรรย์อย่าง ยิ่ง ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าน่าจะเร็วว่าคอมพิวเตอร์ซิลิคอนอีกต่างหาก ก็ยิ่งน่ามหัศจรรย์เข้าไปใหญ่ ประมาณว่าแม้แต่เส้นผมของเรายังเร็วกว่าเพนเทียมทรี แต่ความจริงมีรายละเอียดข้างในให้ติดตามอีกมาก อย่าเพิ่งทึกทักแบบนั้น
ความจริงถ้าพวกเราได้ติดตามข่าวคราววงการคอมพิวเตอร์ มาเป็นเวลานาน ก็จะพบว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ที่จะมีคนออกมาทำนายว่า Moore's Law อาจจะไม่เป็นจริงอีกต่อไป คือพูดกันมาหลายครั้งแล้ว คนที่ทักคนแรกๆ ก็คงจะอารมณ์ประมาณว่า วิศวกรไม่น่าจะลดขนาดได้ทันตามกำหนดการณ์นั้นทุกครั้งไป หรือน่าจะมีสักครั้งที่ติดปัญหาอะไรที่น่าจะแก้ไม่ตก แต่ก็น่าแปลกอีกเช่นกันที่เหมือนว่ากฎนี้จะเอาตัวรอดมาได้ทุกครั้งในช่วง หลายปีที่ผ่านมา
แต่ในความคิดของผม กลับมองว่าความจริงแล้วกฎของ Moore นั้นไม่ได้เป็นกฎที่คาดการณ์เทคโนโลยี คือ ไม่ได้ทำนายว่านักวิทยาศาสตร์จะสามารถเพิ่มพลังให้กับซิลิคอนได้สองเท่าทุก 18 เดือน แต่เป็นกฎที่บอกใบ้นักการตลาดทราบว่า ถ้าคุณเพิ่มพลังให้กับซิลิคอนทุกๆ 18 เดือน รับรองว่าอัตรานี้ขายของดีที่สุด ถ้าเพิ่มเร็วกว่านี้ผู้ซื้ออาจจะเกิดอาการงงและปรับตัวไม่ทัน ส่งผลให้ระงับการตัดสินใจซื้อ (เหมือนกับที่เรามีแผ่น MP3 เยอะและเร็วมาก จนเราไม่มีความคิดจะตามเก็บให้หมดอีกต่อไป) แต่ถ้าปรับช้ากว่านี้ก็จะไม่มีแรงจูงใจพอให้ซื้อเครื่องใหม่ ทำนองว่าเครื่องเราก็ไม่เห็นจะแตกต่างกับเครื่องใหม่ซักเท่าใด ซึ่งประชาชนชาวซิลิคอนวัลลี่ย์ก็ดูเหมือนจะปฏิบัติตามกฎข้อนี้กันด้วยดีเป็น เวลานาน ผลก็คือพวกเราก็ซื้อเครื่องใหม่กันเป็นว่าเล่น โปรแกรมสำเร็จรูปก็อ้วนขึ้นอย่างรวดเร็ว จากแผ่นดิสค์แผ่นเดียวเก็บได้หลายโปรแกรม กลายเป็นโปรแกรมละหลายแผ่น และในที่สุดก็กลายเป็นโปรแกรมละหลายซีดี
คิดดูซิครับว่าอะไรจะบังเอิญปานนั้น ที่อินเทลสามารถเพิ่มซิลิคอนลงในซีพียูของตนได้สองเท่าทุกๆ 18 เดือนมาเป็นเวลา 20 กว่าปีแล้ว ความจริงทีม R&D ของอินเทลทำการบ้านล่วงหน้าไปไกลกว่านั้น แต่อินเทลเลือกที่จะทยอยปล่อยหมัดของตนในอัตราที่เหมาะสม แต่มาช่วงหลังนี้ นักทำนายให้เหตุผลที่ค่อนข้างจะน่าฟังว่าการพัฒนาด้วยซิลิคอนน่าจะมาถึง กำแพงจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความละเอียดในการสร้างทรานซิสเตอร์ และสายเชื่อมสัญญานในซีพียูอาจจะมาถึงระดับที่ไม่น่าจะเล็กลงกว่านี้ได้อีก เพราะข้อจำกัดคือ ไม่สามารถเล็กกว่าความยาวคลื่นของรังสีเอ็กซ์เรยได้ หรือจะเป็นข้อจำกัดเรื่องความเร็วสัญญาณคล็อกของซีพียูซึ่งโยงไปกับเรื่อง ขนาดของชิป ฯลฯ
เมื่อปี 1994 มีนักวิจัยคนหนึ่งชื่อว่า Professor Leonard Adleman จากมหาวิทยาลัย Southern California ท่านนี้คือผู้ร่วมสร้างอัลกอริทึมเข้ารหัส RSA อันโด่งดัง ตัว A ก็คือ Adleman นั่นเอง นอกจากนั้นท่านยังเป็นคนคิดคำว่า "ไวรัสคอมพิวเตอร์" ขึ้นเป็นคนแรก เพราะลูกศิษย์ของท่านเอาโปรแกรมมาให้ดูในห้องเรียนของท่านในปี 1983 บทเลกเชอร์ในหนังเรื่อง Sneaker ที่เกี่ยวกับเทคนิคขั้นสูงในการแยกตัวประกอบ เพื่อใช้ในการแฮกก็เป็นฝีมือของท่านอีก ท่านเล่าให้ฟังว่าตอนทำเลกเชอร์นี้อุตส่าห์วาดในเครื่องแมคเสียสวยงามใช้ เวลาตั้งหลายชั่วโมง แต่ผู้กำกับกลับอยากได้เป็นลายมือหวัดๆ ทำให้ถึงกลับรำพึงออกมาว่า อยากได้หวัดๆ ก็ไม่บอกมีตั้งเยอะ ไม่ต้องเสียเวลาทำ
แต่งานนี้ท่านเป็นคนแรกที่สร้างแนวคิดว่า ความจริงแล้ว DNA ที่เป็นพิมพ์เขียวของสิ่งมีชีวิตนั้นสามารถนำมาสร้างเป็นเครื่องคำนวณได้ แรกๆ ความคิดนี้ดูเหมือนจะเป็นความคิดแผลงๆ ที่พยายามทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก แต่พอเห็นวิธีการจริงๆ แล้ว โลกทั้งโลกก็ต้องตะลึงกับผลที่ออกมา เพราะกลายเป็นว่า DNA มีพลังการคำนวณที่น่าตกใจมาก มากจนเล็งเห็นแนวโน้มว่าอาจจะเป็นคอมพิวเตอร์ยุคต่อไปเลยก็ได้ จากนั้นเป็นต้นมา งานวิจัยที่พยายามเอาทั้ง DNA หรือ RNA มาช่วยคำนวณก็แตกตัวให้เห็นมากมาย ว่ากันว่าปัจจุบันมีมากถึง 15 สายแล้ว เราจะมาดูตัวอย่างกันว่าโลกนี้ไปถึงไหนกันบ้าง ขลุกอยู่กับม็อบเขื่อนซะนาน ต้องเปิดตาซะหน่อย

เปิดตัวครั้งแรก

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า DNA นั้นเริ่มถูกจุดประกายเป็นครั้งแรกโดยฝีมือของนาย Adleman และการจุดประกายนั้นนับได้ว่าเป็นการเปิดศักราชของสาขาวิชานี้เลย ดังนั้น Adleman ก็ต้องกลายเป็นบิดาไปอย่างไม่มีปัญหา โดยโจทย์แรกที่เขานำมาตั้งเป็นตัวอย่างก็คือปัญหา Traveling Salesman ที่เป็นปัญหา Classic ของคนเรียนวิชาอัลกอริทึม ปัญหานี้มีอยู่ว่า มีเมืองอยู่จำนวนหนึ่ง เช่น A ถึง F มีระยะเชื่อมต่อกันแตกต่างกันไป เซลล์แมนคนหนึ่งต้องเดินทางไปขายของทุกเมือง จะเลือกเดินทางอย่างไรจึงจะได้ทางสั้นที่สุด ดังนั้นคำตอบที่เป็นไปได้ถึงมีอาจเป็นตั้งแต่ ABCDEF ไปจนถึง FEDCBA
ลักษณะปัญหาแบบนี้เป็นปัญหาเชิงทฤษฎีกราฟ ซึ่งการแก้ปัญหามักใช้อัลกอริทึมเดียว (ผมใช้คำว่ามักจะ เพราะไม่อยากปิดทางอัจฉริยะชาวไทย ด้วยการใช้คำว่า "ต้อง") คือลองผสมดูทุกๆ วิธีที่เป็นได้ แล้วเลือกเส้นทางที่ดีที่สุด ในวงการเรียกวิธีแบบนี้ว่า "bruce-force" แปลเป็นไทยได้ว่า "แรงควาย" ลักษณะเดียวกับการทดลองเดาพาสเวิร์ด ถ้าเป็นการคำนวณโดยใช้คอมพิวเตอร์ธรรมดาก็สามารถทำได้ แถมบอกได้เลยด้วยว่าจะใช้เวลาในการหาคำตอบนานเท่าใด ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ ถ้าเมืองมีซัก 6 เมืองก็ไม่เท่าไร แต่ถ้ามีซัก 100 ละก็ มันบอกว่าขอเวลาคิดซักล้านปี คอยหน่อยนะ !?!?!
แต่กับการใช้ DNA มาแก้ปัญหานั้นจะต่างออกไป สิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญประเด็นแรกเลยก็คือ เราจะสามารถโมเดลปัญหาให้มาอยู่ในรูปของ DNA ได้อย่างไร? เราจะเอา DNA มาเกี่ยวกับเซลล์แมนได้อย่างไร? คำตอบของ Adleman ออกมาดังนี้ครับ คือ ขั้นแรกต้องทราบก่อนว่าข้อมูลในสายพันธุกรรมนั้นจะประกอบด้วยหน่วยพื้นฐาน 4 ตัวด้วยกันคือ A, T, C และ G (Adenine, Thymine, Cytosine และ Guanine) หลายคนอาจจะเห็นทันทีว่าอย่างนี้ก็เป็นเลขฐานสี่นั่นเอง เหมือนกับที่คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันเป็นเลขฐานสองที่ประกอบด้วย 0 กับ 1 ดังนั้นการแทนชื่อเมืองด้วยรหัส ATCG ก็ไม่น่าจะยาก

 คอมพิวเตอร์ดีเอ็นเอ
                
     วิทยาศาสตร์ได้ขยายตัวอย่างมากในช่วงไม่กี่ศตวรรษที่ผ่านมาการทำสิ่งที่เป็นไปได้ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกพิจารณาว่าเป็นไปไม่ได้อย่างสมบูรณ์ วิทยาศาสตร์ได้ทำมากในการรักษาจำนวนมากของปัญหาทางโลกของเราแต่สิ่งหนึ่งที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ก็คือว่ามันไม่สมบูรณ์และไม่เคยจะวิทยาศาสตร์ที่เป็นเหตุผลสำหรับการนี้จะเริ่มดีขึ้นเสมอยังมีการค้นพบเพิ่มเติมเหล่านี้คือสิบอันดับแรกจะประสบความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ที่ยังไม่ได้รับความ ... ยัง
              คิดมีไอพอดสามารถถือครองพัน ๆ ปีของวิดีโอความละเอียดสูง คอมพิวเตอร์ดีเอ็นเอจะทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวไปได้มาก ดีเอ็นเอเป็นสารที่สิ่งมีชีวิตใช้ในการเก็บข้อมูลทางพันธุกรรม อะไรที่ทำให้ดีเอ็นเอพิเศษก็คือว่ามันมีประสิทธิภาพมากเมื่อมันมาถึงการจัดเก็บข้อมูลในพื้นที่ที่ จำกัด เพียงหนึ่งมิลลิกรัมของดีเอ็นเอที่มีความสามารถในการถือครองทั้งหมดสิ่งพิมพ์ในโลก คอมพิวเตอร์ดีเอ็นเอขณะนี้อยู่ในวัยเด็กของตนโดยมีต้นแบบเช่น MAYA-II เท่านั้นที่สามารถแสดงแนวคิด หากคอมพิวเตอร์ของดีเอ็นเอที่สมบูรณ์คอมพิวเตอร์จะกลายเป็นความสามารถในการถือครองปริมาณของข้อมูลที่มีความยากที่จะจินตนาการตามมาตรฐานของวันนี้


ที่มา    http://www.arip.co.th/articles.php?id=402539

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

วิธีการดูภาพจากกล้องวงจรปิด(CCTV) บนโทรศัพท์ มือถือ iPhone/ipad1,2

วิธีการดูภาพจากกล้องวงจรปิด ผ่านโทรศัพท์มือถือ iPhone/ iPad 1 / iPad 2 นั้นทำได้ไม่ยากครับ
เราจะต้องดูผ่านโปรแกรมที่ชื่อว่า Eagle Eyes ครับ
ถ้าระบบวงจรปิดของคุณนั้นได้รับการติดตั้งจากเราแล้วทำตามขั้นตอนข้างล่าง นี้รับรองว่าไม่พลาดครับ

ดาวน์โหลดโปรแกรม Eagle Eyes ลงบน iPhone/ iPad 1 / iPad 2 ของคุณ
2. เมื่อเรียก App Store ขึ้นมาแล้วให้ดูที่แถบตัวเลือกด้านล่างแล้วกดเรียก “Search” ขึ้นมาเพื่อพิมพ์ชื่อโปรแกรมที่เราต้องการค้นหา
3. ให้พิมพ์ชื่อโปรแกรม “eagleeyes” (ไม่มีวรรค) ลงไปแล้วกด search หากว่าไอโฟนของคุณสามารถติดต่ออินเตอร์เน็ตได้ก็จะมีตัวเลือกขึ้นมาสอง โปรแกรมครับ เป็น Eagle Eyes ทั้งคู่ให้เลือก Eagle Eyes Lite ครับ
4. เมื่อเลือก Eagle Eyes-Lite  ขึ้นมาแล้วให้กด “FREE” และกด “INSTALL” อีกครั้งเพื่อทำการดาวน์โหลดโปรแกรมลงบนไอโฟนของเรากด "FREE" และกด "INSTALL" อีกครั้งเพื่อทำการดาวน์โหลดโปรแกรมลงบนไอโฟน
5. ก่อนดาวน์โหลดเราต้องใส่ itunes ชื่อผู้ใช้และพาสเวิร์ดครับ
5. ก่อนดาวน์โหลดเราต้องใส่ itunes ชื่อผู้ใช้และพาสเวิร์ดครับ

5. ก่อนดาวน์โหลดเราต้องใส่ itunes ชื่อผู้ใช้และพาสเวิร์ดครับ
6. หลังจากใส่ชื่อผู้ใช้และพาสเวิร์ดแล้วตัวโปรแกรม Eagle Eyes Lite ก็จะถูกติดตั้งลงบนไอโฟนของเราครับ
การเปิดใช้โปรแกรม Eagle Eyes Lite
1. หลังจากที่เราได้ติดตั้งโปรแกรมแล้วให้เรากดเลือกที่ตัวโปรแกรมเลยครับ (สัญลักษณ์รูปหน้านกเหยี่ยว

การเปิดใช้โปรแกรม Eagle Eyes Lite
1. หลังจากที่เราได้ติดตั้งโปรแกรมแล้วให้เรากดเลือกที่ตัวโปรแกรมเลยครับ (สัญลักษณ์รูปหน้านกเหยี่ยว)


1. หลังจากที่เราได้ติดตั้งโปรแกรมแล้วให้เรากดเลือกที่ตัวโปรแกรมเลยครับ (สัญลักษณ์รูปหน้านกเหยี่ยว)
2. หน้าแรกที่เราจะเห็นคือส่วนของ address book ให้เรากดเครื่องหมาย + ด้านล่างเพื่อใส่ที่อยู่ข้อมูลการดูกล้องวงจรปิดของเราครับ
3. หน้าต่อไปที่จะขึ้นมาคือหน้าที่ใช้ป้อนข้อมูลครับ (ส่วนของข้อมูลการเรียกดูนั้น ip address, port, username, password คุณจะได้รับจากทีมงานของ บ.ลิงค์มาสเตอร์ ตอนที่ติดตั้งเสร็จครับ หรือสามารถโทรถามได้ที่บริษัทโดยการแจ้งชื่อวันที่ติดตั้งเสร็จและหมายเลข ลูกค้าครับ) หลังจากที่ป้อนข้อมูลเสร็จแล้วให้กด save ครับ
สังเกตได้ว่าจะมี account ที่เราเพิ่งใส่ข้อมูลไปปรากฏอยู่บนหน้า address book หากต้องการแก้ไขให้กดรูปดินสอด้างล่าง หากต้องการที่จะลบ account นั้นทิ้งให้กดที่รูปถังขยะครับ ถ้าทำตามขั้นตอนแล้วระบบมีการเซ็ตอย่างถูกต้องก็จะสามารถดูภาพจากระบบวงจรปิดที่ทางทีมงานเราไปติดตั้งครับ
ที่มา http://www.linkmastercorp.com/index.php?option=com_content&view=article&id=104:-avtech-iphone&catid=35:cctv&Itemid=55


การเปิดใช้โปรแกรม Eagle Eyes Lite

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

GPS

GPS คืออะไร 
GPS คือ ระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลกผ่านดาวเทียม (ย่อมาจาก Globle Positioning System) โดยพิกัดบนพื้นโลกที่ได้ จะมาจากการคำนวณสัญญาณนาฬิกาที่ส่งจากดาวเทียม มาที่เครื่องรับสัญญาณGPS ส่วนดาวเทียมGPSที่สามารถใช้ระบุตำแหน่งได้นั้น จะถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้โครจรอบโลก เพื่อส่งข้อมูลที่จะนำไปใช้คำนวณพิ
กัดออกมาตลอดเวลา
ตัวรับสัญญาณ GPS นั้นจะสามารถระบุตำแหน่งของเราได้แม่นยำแค่ไหน 
GPS คือ ระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลกผ่านดาวเทียม (ย่อมาจาก Globle Positioning System) โดยพิกัดบนพื้นโลกที่ได้ จะมาจากการคำนวณสัญญาณนาฬิกาที่ส่งจากดาวเทียม มาที่เครื่องรับสัญญาณGPS ส่วนดาวเทียมGPSที่สามารถใช้ระบุตำแหน่งได้นั้น จะถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้โครจรอบโลก เพื่อส่งข้อมูลที่จะนำไปใช้คำนวณพิกัดออกมาตลอดเวลา
ระบบGPSจะทำงานได้นั้น ต้องประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆคือ

1. 
สถานีฐาน : มีหน้าที่ควบคุมการทำงาน รวมถึงวงโคจรของดาวเทียม และให้ค่าสัญญาณนาฬิกาที่ถูกต้อง กับดาวเทียม GPS

2. ดาวเทียม GPS : ส่วนของดาวเทียม GPS ในปัจจุบันนั้น(2552) จะมาจาก 3 ชาติหลักๆคือ

- NAVSTAR :
จากของประเทศอเมริกา มีทั้งหมด 24 ดวง โครจรอบโลกที่ความเร็ว 12ชั่วโมงต่อ 1 รอบ

- Galileo :
ถูกพัฒนาโดยสหภาพยุโรป ร่วมกับประเทศจีน อิสราเอล อินเดีย โมร็อกโก ซาอุดิอาระเบีย เกาหลีใต้ และยูเครน รวมจำนวน 27 ดวง มีกำหนดเปิดดำเนินการในปี 2553
- GLONASS : (GLObal NAvigation Satellite System) ที่พัฒนาโดยรัสเซีย

- Beidou :
เป็นดาวเทียม GPS ที่กำลังพัฒนาโดยประเทศจีน

3. 
เครื่องรับสัญญาณ GPS : ผู้ใช้งานสามารถรับสัญญาณ GPS ได้จากอุปกรณ์หลายๆอย่าง เช่น โทรศัพท์มือถือที่รับสัญญาณ GPS ได้, GPS Receiver (ต่อกับ computer, มือถือ) หรือ เครื่อง PNA (Personal Navigation Assistant) หรือเรียกง่ายๆว่า GPS Navigator, GPS ติดรถ หรือ Car GPS
Discovery HD GPS Navigator ( GPS ติดรถ )
Discovery GPS Navigator เป็น GPS ติดรถ คุณภาพสูง ผลิตจากวัสดุเกรด ขนาดบางเฉียบ เพียง 11มม.ใช้ Chipset จาก MTK MT3351 ความเร็วสูงถึง 468MHZ นำไปใช้กับแผนที่นำทางทั้งระบบ 2มิติ และ 3มิติ (2D, 3D) ของบริษัทต่างๆได้ไม่มีสะดุด พร้อมด้วย Module ตัวล่าสุด ใช้รับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งฝั่งAmerica (NAVSTAR) และ Europe (Galileo) สูงสุด 66 ดวง บอกตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และประหยัดพลังงาน GPS ยี่ห้อดังอย่าง Garmin ยังใช้บริการ Chipset ของ MTK เรื่องคุณภาพจึงมั่นใจได้
ตัวเครื่อง GPS ติดรถ มาพร้อมกับ Function Multimedia มากมาย เช่น ใช้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นminiเกมส์ จดบันทึก พร้อม Slot ใส่ MicroSD Card เพื่อเพิ่มความจุให้กับ Memory

และ Battery ที่อยู่ภายในเครื่อง สามารถใช้เล่น GPS ได้ต่อเนื่องนาน 1-2 ชั่วโมงต่อการ charged พร้อมด้วยอุปกรณ์เสริมต่างๆเพื่อนำ GPS Navigator ไปใช้ในรถ ครบครัน


Specifications GPS ติดรถ
http://www.aircardshop.com/images/pointer_green.gifCPU MediaTek MT3351 468MHz (คลิกที่นี่ เพื่อดูคลิปเปรียบเทียบ Chipset MTK และ SiRF V)
http://www.aircardshop.com/images/pointer_green.gifmodule MediaTek MT3351 66channels ( NAVSTAR + Galileo satellites)
http://www.aircardshop.com/images/pointer_green.gifRam 128MB DDR2 (RAM DDR2 เล่นแผนที่ iGO Primo ได้ไม่มีสะดุด เสียงนำทางไม่มีหาย)
http://www.aircardshop.com/images/pointer_green.gifScreen Resolution : 800 x 480 pixels
http://www.aircardshop.com/images/pointer_green.gifScreen : Touch Screen TFT Flat Display พร้อมปากกา Stylus
http://www.aircardshop.com/images/pointer_green.gifMicroSD Card slot Max 8GB
http://www.aircardshop.com/images/pointer_green.gifนำทางต่อเนื่อง 1-2 ชั่วโมงจาก Battery
http://www.aircardshop.com/images/pointer_green.gifขนาดตัวเครื่อง หน้าจอ5.0นิ้ว 12.5 x 8.1 x 1.1ซม. (ยาว x กว้าง x สูง) หนัก 0.25KG
http://www.aircardshop.com/images/pointer_green.gifขนาดตัวเครื่อง หน้าจอ7.0นิ้ว 18.4 x 11.4 x 1.1ซม. (ยาว x กว้าง x สูง) หนัก 0.40KG
http://www.aircardshop.com/images/pointer_green.gifFunction Multimedia เสริม
   - เล่นเกมส์
   - ดูหนัง Format AVI, MPG, asf, mov
   - ฟังเพลง Format WMA, MP3, WAV
   - ดูรูป Format JPG, PNG, BMP
   - จดบันทึก, เครื่องคิดเลข
http://www.aircardshop.com/images/pointer_green.gifFunctionพิเศษ
   - Bluetooth รับสายโทรศัพท์ผ่านเครื่อง GPS ติดรถ (ทำหน้าที่คล้าย Small Talk)
   - AV-In ใช้ต่อกล้องมองหลัง ดูภาพหลังรถขณะถอยหลัง หรือรับภาพจากเครื่องเล่น CD, DVD ในรถ
   - FM Transmitter ใช้ส่งสัญญาณเสียงของ GPS ติดรถ ผ่านคลื่นFM เข้าเครื่องรับวิทยุของรถ
http://www.aircardshop.com/images/pointer_green.gifอุปกรณ์เสริม ที่มากับ GPS ติดรถ ทุกตัว
   - สายต่อ USB2.0
   - แท่นยึดติดกระจกรถ
   - สาย charged รถยนต์
   - adapter ต่อไฟบ้าน
   - หูฟัง
http://www.aircardshop.com/images/pointer_green.gifการรับประกัน :
   - ประกันตัวเครื่อง 6 เดือน เสียภายใน 7 วัน เปลี่ยนตัวใหม่ทันที
   - ประกันอุปกรณ์เสริม 1 เดือน
   - ประกัน MicroSD card 3 ปี


Free :
1. MicroSD Card 2GB (Upgrade เป็น 4GB เพิ่มเงิน 100บาท)
2. แผนที่นำทาง ประเทศไทย Update ฟรีตลอดอายุการใช้งาน
ราคา GPS ติดรถ หน้าจอ 5.0นิ้ว รุ่น DGN501 (ไม่มี Bluetooth, ไม่มี AV in) : 2,500 บาท

ราคา GPS ติดรถ หน้าจอ 5.0นิ้ว รุ่น DGN501BT (มี Bluetooth และ AV in) : 2,700 บาท

ราคา GPS ติดรถ หน้าจอ 7.0นิ้ว รุ่น DGN701BT (มี Bluetooth และ AV in) : 3,200 บาท